*** ้เน้น
ฎีกาที่ 205/2554 เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ม. 147
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งพนักงานคุมประพฤติรับเงินค่าตอบแทนของผู้เยาว์ และได้เบียดบังเอาไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยมิได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากธนาคารในนามของผู้เยาว์ เป็นการไม่ปฏิบัติตนในฐานะผู้กำกับการใช้อำนาจปกครองในส่วนที่เป็นทรัพย์สินของผู้เยาว์ตามคำสั่งศาล การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 147 สำเร็จไปแล้ว แม้ต่อมา จำเลยนำเงินไปเปิดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ให้แก่ผู้เยาว์ที่ธนาคาร ก็เป็นเพียงการพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิด ไม่อาจทำให้การกระทำที่เป็นความผิดอาญาสำเร็จไปแล้วกลับกลายเป็นไม่มีความผิดไปได้
ฎีกานี้ก็สนใจในความเห็นส่วนตัว หากนำมาออกเป็นข้อสอบสารบัญัติ(อาญา) อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการกระทำตามฎีกาที่สามารถโยงไปถึง มาตรา157 334 หรือ 352 เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีปัญหาการปรับบทอีกว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ใช้บทหนักตามมาตรา 90 หรือเป็นเรื่อง บทเฉพาะ บททั่วไประหว่าง 147 กับ 157อีกด้วย ที่จะต้องปรับบทอีกด้วย ซึ่งบางทีเหมือนจะผิดทั้ง 147 157 และ 352 หรือ 334 แต่บางคดีกลับจบที่ มาตรา 147 เพียงมาตราเดียวเท่านัั้น ส่วนฐานอื่นๆไม่ครบองคประกอบ ---ฎีกาที่ 205/2554 นี้ อัยการฟ้อง 147 157 ไม่ได้ฟ้อง 352 แต่แม้ฟ้องไปก็ต้องลง147 หรือ 157 อยู่ดีเพราะ 352 โทษเบากว่าเพื่อนคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดมาตรา 147,157 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก 147 (ด้วยความเคารพความเห็นส่วนตัวนี้น่าจะเป็นเรื่องใช้ 147 เพราะเป็นบทเฉพาะของ 157 มากกว่าจะเป็นกรณีกรรมเดียวผิดกฏหมายหลายบท) ต่อมาศาลศาลอุทธรณ์บอกผิดมาตรา 147 เพียงบทเดียว ศาลฎกายื่นตาม สรุปคดีนี้ผิด 147 ไม่ผิด 157 ----------- ข้อสังเกตส่วนตัว 1.แม้มาตรา 147 เรามักชอบเรียกว่าความผิดฐาน เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ (ซึ่งเรียกตามฎีกา) แต่มาตรา 147 ก็มิได้มีองค์ประกอบเหมือน 352 ความผิดฐานยักยอก เสียทั้งหมด มิหนำซ้ำยังต่างกันในจุดสำคัญอีกด้วยเพราะความผิด 147 เจ้าพนักงานไม่จำเป้นต้องครอบครองทรัพย์นั้นก็ผิดตาม 147 ได้ เพราะกฎหมายใช้คำว่า ...มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น... ไม่จำเป้นต้องถึงกับครอบครองทรัพย์นั้น ในทางกลับกัน ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม 352 การครอบครองทรัพย์ถือเป็นองค์ประกอบภายนอกที่สำคัญมิฉะนั้นจะผิดฐานยักยอกไม่ได้เลย แต่อาจเป็นลักทรัพย์แทน 2. ข้อสังเกตุต่อแม้มาตรา 157 เราอาจเชื่อว่ากันว่าเป็นยาหม้อใหญ่ของความิดต่อตำแหน่งหน้าที่แถบทุกฐาน นึกอะไรไม่ออกใส่ 157 ไว้ก่อน อาจไม่ถูกเสมอไปอย่างคดีนี้ท้ายสุดศาลฎีกาเห็นว่าผิด 147 บทเดียวเท่านั้น ไม่ผิด 157 ส่วนเหตุผลไม่ได้ให้ไว้ว่าทำไมไม่ผิด แต่เชื่อว่าคงเพราะไม่ครบองค์ประกอบของ 157 ในส่วนเกี่ยวกับ หน้าที่ ตามกฎหมายของเจ้าพนักงานนั้นๆ เพราะเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาทุจริตแน่เพราะศาลฎีกาใช้คำว่า " เบียดบังเอาไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว"
รบกวนตอบหน่อยนะคะด่วน !!!
ตอบลบฎีกาที่ 205/2554 เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ม. 147 เนี่ย มีคัดสำเนาตัวเต็มตั้งแต่เริ่มฟ้องคดีในศาลชั้นต้นเลยไหมคะ จนถึงการพิพากษาชี้ขาดคดีในชั้นฎีกา จนจบเนี่ยค่ะ
*****มีเหตุจำเป็นมาก*****
ที่ต้องใช้บทความสำเนาคดีตัวเต็มในการส่งงานอาจารย์วันพรุ่งนี้ค่ะ รบกวนตอบกลับด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ