*** ฏีกานี้จำเลยต้องการให้ได้กระเป๋าของผู้เสียหายไปทั้งกระเป๋า เมื่อมีการกระชากและกระเป๋าเคลื่อนที่ออกจากไหล่มาอยู่ในความครอบครองของจำเลยแล้ว แม้ต่อมาจำเลยจะล้มลงจากรถ กระเป๋าตกไปทำให้จำเลยขาดจากการยึดถือกระเป๋า แต่ก็เท่ากับทรัพย์ได้เคลื่อนที่จากจุดเดิมเป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์สำเร็จแล้ว ทั้งใช้รถเป็นยานพาหนะด้วย จึงต้องรับโทษตาม ม.336 ทวิ และศาลต้องริบรถ ตาม ม.33 (1)
**** แต่หากจำเลยเพียงแต่บังคับให้ผู้เสียหายส่งมอบกระเป๋าให้ จากนั้นก็ยืนค้นกระเป๋าผู้เสียหายตรงนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่าไม่ต้องการกระเป๋า เมื่อค้นแล้วไม่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่มีค่า จำเลยก็คืนกระเป๋าให้ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดแค่พยายามชิงทรัพย์ เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7650/2554
ผู้เสียหายซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ถูกกระชากกระเป๋าจนสายสะพายหลุดจากไหล่ผู้เสียหาย เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มและศีรษะผู้เสียหายกระแทกพื้นถนนสลบไป ส่วนกระเป๋าหลุดติดมือ ว. ไปหล่นบนถนนห่างจากจุดเดิมประมาณ 5 เมตร แสดงว่า ว. กระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหายหลุดจากตัวผู้เสียหายมาอยู่ในความครอบครองของ ว. แล้ว แต่เนื่องจากรถจักรยานยนต์ของจำเลยซึ่ง ว. นั่งซ้อนท้ายมาเสียหลักล้มลงด้วยจนกระเป๋าของผู้เสียหายหล่นลงไปที่พื้นถนนห่างจากจุดเดิมถึง 5 เมตร จึงต้องถือว่าการวิ่งราวทรัพย์เอากระเป๋าสะพายของผู้เสียหายไปจากความครอบครองของผู้เสียหายเป็นความผิดสำเร็จแล้ว หาใช่เป็นเพียงขั้นพยายามวิ่งราวทรัพย์ไม่
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
*** ฏีกานี้จำเลยต้องการให้ได้กระเป๋าของผู้เสียหายไปทั้งกระเป๋า เมื่อมีการกระชากและกระเป๋าเคลื่อนที่ออกจากไหล่มาอยู่ในความครอบครองของจำเลยแล้ว แม้ต่อมาจำเลยจะล้มลงจากรถ กระเป๋าตกไปทำให้จำเลยขาดจากการยึดถือกระเป๋า แต่ก็เท่ากับทรัพย์ได้เคลื่อนที่จากจุดเดิมเป็นความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์สำเร็จแล้ว ทั้งใช้รถเป็นยานพาหนะด้วย จึงต้องรับโทษตาม ม.336 ทวิ และศาลต้องริบรถ ตาม ม.33 (1) **** แต่หากจำเลยเพียงแต่บังคับให้ผู้เสียหายส่งมอบกระเป๋าให้ จากนั้นก็ยืนค้นกระเป๋าผู้เสียหายตรงนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่าไม่ต้องการกระเป๋า เมื่อค้นแล้วไม่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่มีค่า จำเลยก็คืนกระเป๋าให้ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดแค่พยายามชิงทรัพย์ เท่านั้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น