** ฎีกานี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง หลักกฎหมายอย่างหนึ่งที่น่าจดจำคือ การเข้าไปในเคหสถานเพื่อลักทรัพย์นั้น เมื่อจำเลยเข้าไป ต้องถือว่าการกระทำใกล้ชิดต่อผลถือว่าลงมือกระทำความผิดแล้ว เมื่อลงมือกระทำความผิดหากมีการใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือพาทรัพย์นั้นไป การกระทำก็จะกลายเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ ตาม ป.อ.มาตรา 339 ทันที เมื่อจำเลยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม จำเลยต้องรับโทษหนักขึ้นอีกกึ่งหนึ่งตาม ม.340 ตรี
*** แต่รถคันเกิดเหตุไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยใช้หรือได้ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง ศาลริบไม่ได้ ตาม ม.33 (1) ต้องคืน
*** ฎ.10381/2553 พฤติการณ์ที่จำเลยกับพวกจอดรถจักรยานยนต์ของกลางไว้บริเวณใกล้เคียงบ้านของผู้เสียหายแล้วพากันเดินไปที่สุ่มไก่ของผู้เสียหายที่อยู่บริเวณบ้านที่อยู่อาศัยอันเป็นเคหสถานในยามวิกาล แสดงให้เห็นว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาจะร่วมกันลักเอาไก่ของผู้เสียหายไป เป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่การยึดถือเอาไก่ไปนั้นยังไม่บรรลุผล เมื่อผู้เสียหายออกมาขัดขวางจึงเกิดการทำร้ายซึ่งกันและกันเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยใช้รถจักรยายนต์เป็นยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันพยายามชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น