เขตอำนาจศาล(
มาตรา 22-27)
ศาลที่มีอำนาจรับชำระคดี
หลัก ก็คือศาลที่ความผิได้เกิดขึ้น อ้าง หรือเชื่อว่าเกิดขึ้นในเขตอำนาจ แต่มีข้อยกเว้นคือ อาจฟ้องจำเลยต่อศาลในเขตที่จำเลย มีที่อยู่
หรือ ถูกจับ หรือ ได้มีการสอบสวนความผิดในท้องที่ใด ศาลซึ่งท้องที่นั้นๆ
อยู่ในเขตอำนาจก็ได้ ตาม มาตรา 22(1)
-
มาตรา 22(1)
มิได้เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิของโจทก์ที่จะเลือกยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลชั้นต้นที่จำเลยมีที่อยู่ในเขตอำนาจหรือถูกจับได้
แต่เป็นบทบัญญัติที่ให้เป็นดุลพินิจของศาลชั้นต้นที่จำเลยมีที่อยู่หรือถูกจับ
จะรับชำระคดีหรือไม่ก็ได้
โดยศาลจะพิจารณาว่าการฟ้องคดีที่ศาลชั้นต้นที่จำเลยมีที่อยู่หรือถูกจับ “
จะสะดวกยิ่งกว่าการฟ้องคดีต่อศาลที่ความผิดเกิด เชื่อ หรืออ้างว่าเกิด หรือไม่” ดังนั้นการที่โจทก์อ้างว่า
การย้ายจำเลยทั้งสองจากเรือนจำบางขวาง นนทบุรี
ไปดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดภูเก็ต จะไม่ปลอดภัย ในการควบคุม
และอาจเสียหายระหว่างการขนย้าย เป็นเพียงปัญหาในการปฎิบัติของกรมราชทัณฑ์ที่อาจแก้ไขได้ ไม่ใช่กรณีที่ การพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนนทบุรี จะสะดวกยิ่งกว่าการฟ้องที่ศาลจังหวัดภูเก็ต
(ฎ. 516/48, 6511/46)
-
คำว่าที่อยู่ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 22(1)
มีความหมายเช่นเดียวกับภูมิลำเนา
(ฎ. 2073/36)
และต่อมาได้มีบทบัญญัติมาตรา
47 แห่ง ป.พ.พ.
บัญญัติให้ภูมิลำเนาของผู้ที่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดของศาล
ได้แก่เรือนจำหรือทัณฑสถานที่ถูกจำคุกอยู่จนกว่าจะได้รับการปล่อยตัว
ซึ่งโจทก์อาจฟ้องจำเลยต่อศาลที่อยู่ในเขตที่ตั้งของเรือนจำ หรือทัณฑสถาน
ก็ได้ แต่ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะรับชำระคดีหรือไม่ก็ได้ (ฎ. 2646/46)
- ผู้ที่ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลนั้น
ต้องเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดด้วย จึงตะถือว่าเรือนจำ หรือทัณฑสถานเป็นภูมิลำเนา ตาม
ป.พ.พ. มาตรา 47
ถ้าคำพิพากษายังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ถือว่าเป็นภูมิลำเนา (ฎ. 2209/40) และต้องมีการจำคุกจริงๆในเขตศาลนั้นด้วย (ฎ.
8836/38)
-*** ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยหนังสือพิมพ์ลงข้อความหมิ่นประมาท
ถือว่าท้องที่ที่จำหน่ายหนังสือพิมพ์ทุกแห่งเป็นที่เกิดเหตุ (ฎ. 2145/18,
2360/23)
-
กรณีความผิดต่อ พ.ร.บ.เช็ค ฯ
หากเป็นกรณีที่ผู้เสียหายฟ้องเอง
สถานที่เกิดเหตุมีเพียงสถานที่เดียวคือ สถานที่ที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการใช้เงิน
(ฎ. 857/30, 1229/19 ป.)
แต่ถ้าอัยการฟ้อง จะมีที่เกิดเหตุ 2
แห่งคือสถานที่ออกเช็ค และสถานที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ดังนั้นถ้ามีการสอบสวนในท้องที่ที่ออกเช็ค
ซึ่งถือว่าเป็นความผิดต่อเนื่องกับท้องที่ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
อัยการจึงฟ้องได้ตามมาตรา 22(1) (ฎ.
1702-3/23 ป.) ซึ่งเป็นการโยงมาตรา
19 (3) กับ มาตรา 22(1)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น