ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43
มิได้บัญญัติให้อำนาจพนักงานอัยการเรียกทรัพย์สินหรือราคาคืนแทนผู้เสียหายในคดีอาญาฐานโกงเจ้าหนี้
ฟ้องไม่ปรากฏว่าในการที่จำเลยที่ 1 โอนขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ 2,3
นั้นจำเลยได้กระทำโดยรู้ว่าเจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้
ไม่ครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350
ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการโดยขอถือเอาคำฟ้องของอัยการเป็นคำฟ้องของโจทก์ร่วมด้วยฉะนั้น
เมื่อศาลพิพากษายกฟ้อง จึงหมายความว่าได้ยกฟ้องของโจทก์ร่วมด้วย
ศาลจึงใช้ดุลพินิจกำหนดให้โจทก์ร่วมใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยได้แม้จะไม่ได้วินิจฉัยคดีทางแพ่งด้วยก็ตาม
เมื่อโจทก์นำสืบ จำเลยมิได้ถามค้านความข้อใดไว้
แล้วจำเลยมานำสืบพิสูจน์ภายหลังในความข้อนั้นโจทก์ก็ชอบที่จะโต้แย้งและขอให้ศาลจดข้อโต้แย้งนั้นไว้การที่โจทก์เพิ่งมาคัดค้านในชั้นอุทธรณ์จึงต้องห้าม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น